รถมอเตอร์ไซต์ที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมส

รถมอเตอร์ไซต์ที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมส

รถมอเตอร์ไซต์ที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมส เลือกอย่างไรให้คุ้ม ประหยัด และทนสุดสำหรับงานหนักทุกวัน

หนึ่งในต้นทุนที่สำคัญที่สุดของงานแมสเซ็นเจอร์คือ “รถมอเตอร์ไซต์” ไม่ว่าจะเป็นงานส่งเอกสาร วางบิล—รับเช็ค ส่งพัสดุในเขตเมือง หรือส่งงานโรงงานรอบนอก รถคืออาวุธหลักที่ต้องอึด ทน ประหยัด และพร้อมสำหรับการใช้งานทุกวันแบบไม่มีหยุดพัก

ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในองค์กรหรือแมสที่เพิ่งเริ่มงานคือ ซื้อรถผิดประเภท บางคนเลือกรถสวยแต่ไม่เหมาะกับงาน บางคนเลือกออโต้แต่ต้องวิ่งยาวรอบนอก บางคนใช้รถแต่งจนกินน้ำมัน หรือบางกรณีหนักที่สุดคือรถพังกลางทางจนทำให้งานส่งเอกสารล่าช้า และกระทบต่อชื่อเสียงบริษัทโดยตรง

คำถามคือ รถมอเตอร์ไซต์ที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมสจริง ๆ คือแบบไหน? และรุ่นไหนบ้างที่ทน ประหยัด และคุ้มค่าที่สุดในปีนี้ บทความนี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่าย พร้อมประสบการณ์จริงจากการทำงานร่วมกับแมสเซ็นเจอร์หลายบริษัทและการวิเคราะห์ตามลักษณะงานในประเทศไทย


1) ทำไมการเลือก “รถส่งแมส” ให้ถูกประเภทจึงสำคัญ?

ไม่ว่าคุณจะเป็นแมสอิสระ แมสประจำบริษัท หรือผู้บริหารฝ่ายธุรการที่ต้องจัดระบบส่งเอกสารประจำวัน การเลือก “รถที่เหมาะกับงาน” มีผลต่อทั้งต้นทุนและคุณภาพงานอย่างชัดเจน เช่น:

  • รถกินน้ำมันมาก → ต้นทุนพุ่งโดยใช่เหตุ
  • รถเครื่องเล็กเกินไป → เร่งไม่ขึ้นในงานวิ่งยาว
  • รถออโต้ไม่เหมาะกับงานรอบนอก → ผ้าเบรกสึกเร็ว
  • รถรุ่นอะไหล่หายาก → ซ่อมนาน ขาดรอบส่งงาน
  • รถไม่ทน → เหนื่อยทั้งคนขี่และเสียโอกาสในงาน

ดังนั้น “รถดี” ในมุมมองแมสเซ็นเจอร์ต้องหมายถึง ประหยัด–อึด–ซ่อมง่าย–พร้อมใช้งานทุกวัน ไม่ใช่แค่รถที่วิ่งได้เท่านั้น


2) ประเภทของรถที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมส (Expert Explanation)

รถส่งแมสในไทยสามารถแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละประเภทเหมาะกับงานต่างกันดังนี้:

1) รถครอบครัว (Family Bike)

ตัวอย่าง: Honda Wave 110/125, Honda Dream, Yamaha Finn

เหมาะสำหรับ: งานในเมือง–รอบนอก, วิ่งวันละหลายสิบกิโล, งานวางบิล–รับเช็ค

จุดเด่น: ประหยัดน้ำมันที่สุด, อะไหล่ถูกที่สุด, ซ่อมง่ายที่สุด

2) รถออโตเมติก (Automatic / Scoopy / Click)

เหมาะสำหรับ: งานในเมืองที่ต้องหยุด–ออกตัวบ่อย เช่น กรุงเทพฯ, ย่าน CBD

จุดเด่น: ขี่ง่าย คล่องตัว แต่ไม่เหมาะกับงานวิ่งยาว

3) รถครัชมือ (Manual Clutch)

เหมาะสำหรับ: วิ่งรอบนอก, วิ่งทางยาว, วิ่งหนักตลอดวัน

จุดเด่น: เร่งดี ทนต่อการใช้งานหนัก แต่สิ้นเปลืองกว่าเล็กน้อย

4) รถไฟฟ้า (EV)

เหมาะสำหรับ: งานส่งใกล้ ๆ ภายในรัศมี 5–15 กม., ในออฟฟิศ, โรงงาน

จุดเด่น: ประหยัดค่าน้ำมัน แต่ต้องพิจารณาการชาร์จและแบตเสื่อม

ในตลาดจริง แมสกว่า 80% เลือก “รถครอบครัว” เพราะประหยัด ซ่อมง่าย และใช้งานได้ทุกสถานการณ์


3) มอเตอร์ไซค์รุ่นที่เหมาะกับงานแมสจริงในไทย (Deep Insights)

จากประสบการณ์ทำงานร่วมกับแมสหลายองค์กร รวมถึงบริษัทด้านโลจิสติกส์ งานบัญชีและงานเอกสาร นี่คือรุ่นที่ “ชนะเลิศด้านความทน–ประหยัด–คุ้มค่า” สำหรับการใช้งานแบบแมสเซ็นเจอร์

1) Honda Wave 110i – ตัวเลือกอันดับ 1 ของวงการแมส

เหตุผลที่เหมาะที่สุด:

  • น้ำมันประหยัดมาก 50–60 กม./ลิตร
  • อะไหล่ถูกที่สุดในตลาด
  • เครื่องทน วิ่งหนักทั้งวันไม่งอแง
  • แมสทุกเจ้าเคยใช้ ทำให้หาช่างซ่อมง่าย

2) Honda Dream 110i / 125i – สายทน สายลุย

  • เครื่องทนนานกว่า Wave
  • โครงสร้างเหมาะกับงานหนัก เช่น วางบิล 30 จุด/วัน

3) Yamaha Finn – คู่แข่งสำคัญที่ประหยัดไม่แพ้กัน

จุดเด่นคือประหยัดและแรงบิดดี เหมาะกับงานที่ต้องวิ่งรอบนอกหรือเส้นทางมีเนิน

4) Honda Click 125/160 – สำหรับงานในเมือง ที่ต้องหยุดบ่อย

แม้จะกินน้ำมันกว่ารถครอบครัว แต่ความคล่องตัวในเมืองคือจุดแข็ง

5) Honda Scoopy / Giorno – สำหรับงานสั้น ๆ ในเขตชุมชน

เหมาะกับองค์กรที่ต้องส่งเอกสารในระยะ 3–10 กม. อย่างต่อเนื่อง

6) Super Cub – ประหยัดและทนเหมือน Dream แต่สไตล์โดดเด่น

หลายองค์กรเลือกเพราะต้องการภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยและเป็นทางการ


4) เคสจริง: แมส 1 คนเปลี่ยนรุ่นรถ → ประหยัดเงินได้เดือนละ 1,200 บาท

คุณโต้งเป็นแมสประจำบริษัทที่วิ่งส่งเอกสารในเส้นพระราม 3–สาทร–สีลม เดิมใช้ Honda Click 150 เพราะขี่ง่าย แต่พบว่าค่าน้ำมันเฉลี่ยวันละ 80–120 บาท

หลังเปลี่ยนเป็น Honda Wave 110i ค่าน้ำมันเหลือวันละ 40–60 บาททันที ลดลงเกือบ 50% ต่อเดือนรวมแล้วประหยัดได้กว่า 1,200–1,800 บาท

สำหรับแมสอิสระ นั่นคือกำไรที่เพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องทำงานเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว


5) วิธีเลือก “รถส่งแมส” แบบใช้งานได้จริง

✔ 1) เลือกตามลักษณะงานที่ต้องทำ

  • งานวางบิล–รับเช็ค → Wave, Dream, Finn
  • งานส่งในเมือง → Click, Scoopy
  • งานระยะใกล้ → EV

✔ 2) เลือกเครื่องยนต์ 110–125cc

เพียงพอสำหรับงานแมสส่วนใหญ่ ไม่กินน้ำมัน และทนกว่าเครื่อง 160cc ขึ้นไป

✔ 3) เลือกรุ่นที่อะไหล่หาง่าย

รถที่หาช่างซ่อมง่ายทำให้ไม่ต้องหยุดงานนาน

✔ 4) เลือกเบาะกว้างและท่านั่งสบาย

แมสหลายคนวิ่งวันละ 8–12 ชั่วโมง ความสบายคือประเด็นใหญ่

✔ 5) เลือกตะกร้าหน้าและตะแกรงหลังที่แข็งแรง

เหมาะกับงานที่ต้องวางเอกสารหรือของชิ้นเล็กจำนวนมาก


6) ข้อดี–ข้อจำกัด และความเข้าใจผิด

ข้อดีของการเลือกรถให้ถูกประเภท

  • ลดค่าใช้จ่ายรายเดือน
  • รถพังคือน้อยลง
  • งานส่งรวดเร็วขึ้น
  • ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
  • ใช้งานต่อเนื่องได้เป็นปี

ความเข้าใจผิด

“รถออโต้เหมาะกับทุกงาน” – จริง ๆ เหมาะเฉพาะงานในเมืองเท่านั้น

“ซื้อรถแพง = ดีที่สุด” – งานแมสต้องการความคุ้มค่า ไม่ใช่ความหรูหรา

“รถแต่งทำให้วิ่งดีขึ้น” – แต่งมาก = สิ้นเปลือง และอะไหล่สึกเร็ว


7) FAQs

รถแบบไหนประหยัดน้ำมันที่สุดสำหรับงานแมส?

Honda Wave 110i และ Yamaha Finn ถือว่าประหยัดที่สุดในตลาด

ใช้รถ EV ส่งเอกสารได้ไหม?

ได้ แต่เหมาะกับการวิ่งใกล้ ๆ เช่น ในเขต 5–10 กม.

รถออโต้เหมาะกับงานอะไร?

เหมาะกับงานในเมืองที่มีรถติดหรือการหยุด–ออกตัวบ่อย ๆ

ควรเลือกรถมือหนึ่งหรือมือสอง?

มือหนึ่งเหมาะกับงานหนักในระยะยาว มือสองเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มงานแมส


บทสรุป

รถมอเตอร์ไซต์ที่เหมาะกับการวิ่งส่งแมส ไม่ใช่รถที่แรงที่สุดหรือสวยที่สุด แต่คือรถที่ “คุ้มค่า ทน ซ่อมง่าย และเหมาะกับลักษณะงานจริง” หากเลือกถูกตั้งแต่ต้น คุณจะทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น และมีรายได้ต่อวันที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มเวลาแม้แต่นิดเดียว

ทำไมต้องเลือก TD Express ในการขนส่งเอกสาร

  1. บริษัท TD Express เปิดมานานกว่า 30 ปี มีประสบการณ์และความชำนานในการดำเนินธุรกิจแมสเซนเจอร์ มีลูกค้าใช้บริการต่อเนื่องกว่า 30 ปี
  2. ใช้บริการ TD Express ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
  3. TD Express ให้บริการแมสเซนเจอร์ครอบคลุมกรุงเทพและปริมณฑล
  4. มีทีมงาน Admin Support สำหรับดูแลและประสานงานแก้ไขปัญหาระหว่างแมสเซนเจอร์ และลูกค้าทุกราย
  5. มีทีมแมสเซนเจอร์ทดแทนงาน 100 %
  6. พนักงานแมสเซนเจอร์ของเรามีความซื่อสัตย์และไว้ใจได้เนื่องจากมีการสัมภาษณ์และตรวจประวัติอาชญากรรม 100 %

TD Express Training
มีการฝึกอบรมพนักงานใหม่ก่อนส่งไปปฏิบัติงานจริงกับลูกค้าเพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Call Center (Service Tracking)
มีทีม Call center สำหรับให้ลูกค้าติดต่อประสานงานหรือติดตามงาน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น

ช่องทางการติดต่อ TD Express
Email : [email protected]
Tel : 02-562-0218 -9
Line : https://lin.ee/AeR1sIP
ข้อมูลเพิ่มเติม :
👉 https://www.tdexpress

Share:

Facebook
Privacy Overview

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้เราสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่คุณได้ ข้อมูลคุกกี้จะถูกเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและทำหน้าที่ต่างๆ เช่น การจดจำคุณเมื่อคุณกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา และช่วยให้ทีมงานของเราเข้าใจว่าส่วนใดของเว็บไซต์ที่คุณพบว่าน่าสนใจและมีประโยชน์มากที่สุด